วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

The Dark Knight Rises แบทแมนขอรีไทร์


The Dark Knight Rises การกลับมาของแบทแมนและเป็นการกลับมาของผู้รีวิวด้วย หายไปซะนานเพิ่งจะได้กลับมาเขียนรีวิว เข้าเรื่องดีกว่า TDKR ผลงานกำกับของสุดยอดผู้กำกับอย่าง Christopher Nolan มาภาคนี้ได้เขาได้กลับมาสานต่อเจตนารมณ์ของแบทแมนเป็นภาคสุดท้าย เจ้าตัวออกมาประกาศเองเลยว่าจะไม่กำกับแบทแมนอีกแล้ว ประมาณว่ากูพอแล้ว

TDKR เล่าเรื่องแปดปีให้หลัง ต่อจาก The Dark Knight ใน TDK แบทแมน (Christian Bale) ได้ยอมรับผิดแทนฮาร์วีย์ เดนท์ ทำให้เขาต้องถูกตามล่าจากตำร วจ และเมืองก็อธแทมก็กลับมาสงบสุข ด้วยผลจากการออกกฏหมายของฮาร์วี่ย์ เดนท์ ทำให้อาชญากรอยู่ในคุกหมด แต่ความสงบสุขของก็อธแทมก็อยู่ได้อีกไม่นานเพราะตัวร้ายตัวใหม่อย่าง เบน (Tom Hardy) โผล่ออกมาป่วนเมือง และยังมีแคทวูแมน (Ann Hathaway) อีกด้วย แบทแมนเองจึงต้องออกมาสู้อีกครั้งเพื่อปกป้องเมืองที่เขารัก


หลังจากที่ได้ดูไป ได้ลองอ่านความคิดเห็นของหลายๆคน ซึ่งมีทั้งชอบและไม่ชอบ ที่ไม่ชอบเพราะคาดหวังกับหนังว่ามันจะต้องดีเท่า TDK มันต้องกดดัน ตัวร้ายมันต้องฉลาด ต้องจิต เหมือนโจ๊กเกอร์ และต้องมีฉากเด็ดๆ แบบ TDK ที่เอาเรือสองลำมาระเบิด ซึ่งหากคุณคาดหวังแบบนี้ คุณก็ไม่ชอบภาคนี้แน่นอน


สำหรับมุมมองของผม ผมว่าเป็นหนังภาคจบที่สมบูรณ์แล้วนะ เป็นหนังที่ปิดฉากไตรภาคได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ภาคที่แล้วโจ๊กเกอร์เป็นตัวละครที่เด่นอยู่ตัวเดียวจริงๆ ซึ่งภาคนี้แบทแมนได้กลับมาเป็นตัวเด่น ดังนั้นผมว่าจึงไม่แปลกที่ตัวร้ายในภาคนี้จะไม่ฉลาดเหมือนโจ๊กเกอร์ เพราะหนังเน้นไปที่ตัวแบทแมนในการ"ลุกขึ้นต่อสู้"แม้ตัวเองจะแก่กว่าเดิม สู้เบนไม่ได้ และยังโดนเบนหักหลังเข้าให้อีก

ฉะนั้นมันจึงเป็นภาคที่ปิดตำนานแบทแมนได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมันคือการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการเป็นแบทแมนอีกครั้ง (ในภาคแรกแบทแมนใช้ความกลัวที่พ่อแม่ตัวเองตาย ลุกขึ้นปกป้องเมือง ภาคนี้แบบแมนใช้ความกลัวที่ไม่สามารถปกป้องเมืองได้ ลุกขึ้นปกป้องเมืองและคนที่เขารัก) นอกจากนี้การที่แบทแมนลุกขึ้นปกป้องเมืองที่เขารักยังเป็นแรงบันดาลใจให้ตำรวจขี้ขลาดคนนึงในเรื่อง กล้าออกมาต่อสู้ด้วย ซึ่งแบทแมนเองได้บรรลุความต้องการในการเป็นแบทแมน ที่ต้องการเป็นสัญลักษณ์ให้กับชาวก็อธแทมมาตั้งแต่ในภาคแรก และให้คำตอบได้อย่างดีกับคำพูดของแบทแมนที่ว่า "ใครก็เป็นแบทแมนได้"

 ในบทสัมภาษณ์ของ Nolan เขาได้บอกว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายเรื่อง The Tale of Two Cities นิยายของ Charles Dicken http://www.learners.in.th/blogs/posts/258055 หากใครสนใจลองอ่านได้ครับตามลิงค์ นิยายเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิด จริยธรรม บลาๆ ซึ่งก็เหมือนตัววายร้ายของเรื่อง"เบน"ที่อ้างว่าพวกคนจนมักถูกกดขี่โดยพวกคนรวย และการมาของเขาเป็นการปลดปล่อยนั่นเอง แต่จริงๆแล้วต่างฝ่ายก็ใช้อำนาจในทางผิดๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นอีกประเด็นของหนังที่ทำออกมาได้ดีครับ

 อีกสิ่งที่ผมชอบมากๆ คงเป็นตัวละครอย่างลุงอัลเฟร็ด (Michael Cane) แกแสดงได้ดีมากๆ เลย แม้บทจะน้อยก็ตาม แต่ฉากที่โผล่ออกมานี้เล่นเอาซะน้ำตาแทบไหลเลย อัลเฟร็ดเป็นคนที่รักบรูซ เวนย์ มากขึ้นนึงเลย เห็นได้แต่ภาคแรกแล้ว ไม่ว่าบรูซจะอยู่ในสถานการณ์ใด แกจะคอยให้กำลังใจเสมอ

และตัวละครอีกตัวที่ไม่พูดไม่ได้คงเป็นตัวละครใหม่อย่างจอห์น เบลค (Joseph Gordon Levitt) ที่มีจุดยืนและให้การสนับสนุนแบทแมนมาโดยตลอด ตอนจบหนังจะเฉลยด้วยนะครับว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นใครกันแน่

ด้านภาพเสียงของหนัง สุดยอดเหมือนกับหนังของโนแลนที่ผ่านมาครับ รวมทั้งฉากที่ใช้กล้องไอแมกซ์ถ่ายก็สุดยอดจริงๆ ผมแนะนำว่าให้ไปดูโรงไอแม็กซ์เลย เพราะหนังเรื่องนี้ให้กล้องไอแม็กซ์ถ่ายภาพจะสวยมากเลยครับ

สรุป TDKR เป็นหนังที่ปิดตำนานแบทแมนได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

ความน่าดู



9/10






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น