วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

2001: A Space Odyssey มันอาร์ตจริงๆ


สวัสดีครับพี่น้องชาวโลกทุกท่าน วันนี้ผมจะรีวิวหนังที่อาร์ตๆ แถมยังล้ำๆ ด้วย เพราะหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับการท่องอวกาศของมนุษย์ที่แฝงปรัชญา แง่คิดอะไรมากมายจนดูแล้วปวดหัว อยากจะบอกผู้กำกับว่า อะไรของมึงว่ะ?? ครับ วันนี้ผมจะมาตีความตามที่ผมเข้าใจแล้วกัน!

2001: A Space Odyssey เป็นหนังไซไฟปี 1968 กำกับโดย Stanley Kubrick ตอนต้นหนังเล่าเรื่องถึงต้นกำเนิดของมนุษย์ ซึ่งตอนนั้นมนุษย์เราก็เป็นลิงป่ากันอยู่ แล้วจู่ๆก็มีแท่งสีดำปักลงมาที่อยู่ของเหล่าฝูงลิง และหนังก็เล่าต่อว่า มีลิงบางตัวที่มีพัฒนาการ สามารถหยิบจับกระดูกแล้วทุบลิงที่เป็นศัตรูกันจนตาย (อาร์ตไหมละครับพี่น้องชาวโลก)


แล้วหนังก็ตัดกลับมาที่โลกปัจจุบัน ปี 2001 มนุษย์ได้ค้นพบแท่งเหล็กเหมือนกันกับที่พวกลิงบรรพบุรุษเราเจอ ตอนแรกมนุษย์คิดว่ามันเป็นสิ่งที่บอกว่านั่นเป็นหลักฐานว่ามีสิ่งชีวิตอื่นนอกโลก ซึ่งแท่งนี้ปักอยู่บนดวงจันทร์ และเมื่อทีมสำรวจไปถึงแท่งเหล็ก มันได้ปล่อยสัญญาณไปยังดาวพฤหัส

จากนั้นมนุษย์ได้ทำการส่งทีมสำรวจไปดาวพฤหัสเพื่อค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกต่อไป แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดเมื่อ คอมพ์ที่ควบคุมยานอวกาศเกิดคิดเองได้ และหักหลังลูกเรือ จนลูกเรือต้องตายเกือบหมด รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ เดฟ เมื่อเดฟสามารถเอาชีวิตรอดและตัดสัญญาณการเชื่อมต่อของคอมพ์กับยานอวกาศได้ เขาก็ได้เดินทางไปถึงดาวพฤหัสเพียงคนเดียว และคนดูก็พบกับแท่งเหล็กเช่นเดิมลอยอยู่ในอวกาศ

ที่พูดไปคือเนื้อเรื่องละครับ อาร์ตไหมละ??

ชาวโลกทั้งหลายคงจะงง ใช่ไหมละครับว่าทำไมต้องมีไอ้แท่งเหล็ก ทำไมต้องเริ่มต้นที่ลิง ในเมื่อมังเป็นหนังไซไฟ???

ตามความคิดของผมหนังทั้งเรื่องต้องการสื่อถึงความไม่รู้ของมนุษย์ เพราะตั้งแต่แรกเริ่มที่มนุษย์เราเป็นลิง มนุษย์ก็ไม่รู้ว่าไอแท่งเนี่ยมันคืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง และเมื่อมนุษย์พบไอ้แท่งนั่นอีกบนดวงจันทร์มนุษย์ก็ยังไม่รู้อีกนั่นแหละว่าแท่งนั้นคืออะไร ซึ่งมนุษย์ก็ต้องออกไปสำรวจถึงดาวพฤหัสด้วยความกระหายอยากรู้ว่ามันคืออะไร นั่นแหละคือสันดานของมนุษย์ที่ต้องการใคร่รู้ไปทุกอย่าง เพราะฉะนั้นแท่งเหล็กก็คือสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถรู้ได้นั่นเอง


หนังยังได้ใส่คำเตือนให้มนุษย์ว่า เราไม่ควรจะหวังพึงเทคโนโลยีใหม่ๆมากเกินไป ควรทำอะไรด้วยความสามารถเราเองบ้าง เพราะหากวันนึงมันคิดเองได้แล้ว ความวิบัติก็จะมาเยือนเรา เหมือนกับลูกเรือทั้งหมดบนยานนั่นแหละ

และก็มีอีกหลายสิ่งที่เป็นนามธรรมในหนังเรื่องนี้ที่เกินปัญญาผมจะเข้าใจ เช่นฉากจบที่มีเด็กเนี่ยไม่เก็ทจริงๆ ท่านไหนดูช่วยบอกผมเถอะ

มาพูดถึงสเปเชียลแอฟเฟกของหนังกันบ้าง ต้องขอบอกว่าล่ำจริงๆ หนังไม่ได้ดูเก่าแต่อย่างใดเลย หากไม่รู้ว่าเออหนังมันสร้างปี 1968 แล้ว ผมคงคิดว่าเพิ่งจะสร้างเมื่อปี 90 นี่เอง

เคยสังเกตุไหมครับหนังเก่าๆพวกภาพจอคอมพิวเตอร์จะเป็นจอนูนๆโค้งๆดูโบราณ แต่หนังเรื่องนี้จอนี่แบนเหมือนกับโลกอนาคตเลยทีเดียว และปุ่มแผงทำงานต่างๆบนยานอวกาศก็ดูล้ำหน้า มากกว่าจะเป็นในในปี 60 เสียด้วยซ้ำ


สรุป 2001: A Space Odyssey  เป็นหนังที่ล่ำแฝงปรัชญาที่สุดยอด มีภาพสวยๆให้ชมกันตลอดเรื่องครับ หากใครชอบหนังแล้วอาร์ตแล้วละก็ ไม่ผิดหวังแน่ครับ

ความน่าดู

8.5/10

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2557 เวลา 17:52

    ลองไปหาอ่านหนังสือดูแล้วจะเข้าใจง่ายขึ้น หรือลองไปดูคำอธิบายจากคนสร้างหนังเองเลยว่าเค้าต้องการสื่ออะไรที่เว็บ www.kubrick2001.com ...ส่วนตอนจบคนแต่งหนังสืบให้คำตอบไว้ว่า "For though he was master of the word, he was not sure what to do next... but he would think of something." มนุษย์ผู้คิดว่าตนครองโลกรู้ทุกอย่างจบหมดบนโลกแล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่เด็กเมื่ออยู่นอกโลก

    ตอบลบ