วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

J.Edgar ชายผู้กุมความลับของคนอื่น


ห่างหายไปจากบล็อกซะนาน วันนี้ของมารีวิวหนังสักเรื่องแระกัน

J.Edgar เป็นหนังดราม่า แบบอัตชีวประวัติของ John Edgar Hoover ผู้ที่เป็ยผอ. FBI ในช่วงเริ่มก่อตั้งใหม่ๆ นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio ครับ

หนังเริ่มต้นในสมัยที่ Hoover แก่งั่ก โดยให้ Hoover เล่าย้อนกลับไปในสมัยที่ตัวเองหนุ่มๆ ที่เขาเพิ่งเป็น ผอ ของFBI


หนังนำเสนอถึงความยากลำบากในการทำงานของ FBI ได้เป็นอย่างดี เพราะเริ่มแรกก่อตั้ง FBI ไม่ได้มีอำนาจเหมือนเช่นในสมัยนี้ การทำงานมักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากคนอื่นๆ รวมทั้งเทคโนโลยีในการสืบสวนก่อมีไม่มาก เช่นกัน (เช่นเรื่อง Public Enemies)

Hoover เองเป็นคนที่ก่อตั้งหน่วยงานคิดค้นอะไรใหม่ๆ เช่น ห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ของในที่เกิดเหตุ หรือสั่งให้มีการเก็บลายนิ้วมือคน เพื่อจะได้สืบหาตัวคนผิดได้รวดเร็วและถูกต้อง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ตลก

นอกจากนี้ Hoover ยังเป็นคนที่กุมความลับของนักการเมืองไว้อีกหลายคน รวมทั้งประธานาธิปดีของสหรัฐ เกือบทุกคน เพราะเขาเชื่อว่า การที่มีความลับของคนอื่น เป็นสิ่งที่ทำให้เราอยู่เหนือกว่าคนๆนั่นได้ และสาเหตุนี่แหละที่ทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งได้นาน เพราะไม่มีใครการเล่นงาน Hoover

J.Edgar Hoover นับเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลคนนึงในอเมริกา ถึงแม้เขาจะทำงานโดยบิดเบือนความจริงหลายๆอย่าง เช่น โกหกคนอื่นว่าจับโจรด้วยมือของเขาเอง อีกมากมาย

เมคอัพของหนังเรื่องนี้

หนังให้รายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี ว่าในแต่ละสมัยมีเหตุการณ์สำคัญๆอะไรบ้าง เช่นช่วงแรกมีการเคลื่อนเรื่องคอมมิวนิสต์ แก๊งค์โจรปล้นธนาคาร ฯลฯ

นอกจากเหตุการณ์การก่อตั้ง FBI หนังยังแทรกเรื่องราวความรักของ Hoover กับมือขวาของเขา Clyde (Hammer) เป็นความรักต้องห้ามที่ดูแล้วน่าสงสารทั้งคู่ทีเดียว เพราะการเป็นเกย์ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากสังคมอเมริกันตอนนั้นยังไม่ให้การยอมรับ (หากอยากดูหนังเกี่ยวกับเกย์ ผมแนะเรื่อง Milk เลยครับ แล้วคุณจะรู้ว่าอเมริกาไม่ได้เป็นเมืองแห่งเสรีภาพที่แท้จริง)

ด้วยรวมแล้วเป็นหนังที่น่าดูทีเดียวครับ ติดอยู่ที่ว่าการแสดงของ Leonardo, Armie Hammer กับ Naomi Watts ที่ทั้งสามคนแสดงเป็นคนวัยแก่ มันดูไม่สมจริงเสียเลย โดยเฉพาะรายหลังเนี่ย ดูไม่เหมือนคนแก่ทำงานคล่องซะเหมือนอยุ่ในวัยสาวเลย รวมทั้งการพูดของตัวละครด้วย นอกจากนี้เมคอัพของหนังก็ไม่ได้เรื่อง ไม่สมจริงครับ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้เลยครับ

ดูไม่แก่เลย

สรุป หากใครชอบหนังของ Clint Eastwood ละก็ลองหามาดูกันครับ เพราะหนังดราม่าเรื่องนี้มีกลิ่นอายของความเป็นคุณปู่ Clint เต็มๆ เช่นการเดินเรื่อง การเล่าเรื่อง มุมกล้องทั้งหลาย พลาดไม่ได้ครับ

ความน่าดู
7/10




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น