วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

And When Did You Last See Your Father? ปล่อยวางซะบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข


And When Did You Last See Your Father? ปล่อยวางซะบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข


ทุกวันนี้คุณโกรธอะไรพ่อของคุณบ้างหรือป่าว?
หากคุณโกรธ คุณให้อภัยเขาได้แล้วยัง?


And When Did You Last See Your Father? เป็นหนังดราม่าที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวมอริสัน ซึ่งก็เหมือนครอบครัวทั่วๆไปที่มีทั้งความสุขและความทุกข์ปนๆกันไป

หนังเรื่องนี้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ อาเธอร์ (Jim Broadbent) และลูก เบลค (Colin Firth) ซึ่งช่วงแรกนั้นหนังเล่าเรื่องราวไปอย่างช้าๆว่าพ่อมีนิสัยที่ช่างพูด เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม อยากได้อะไรแล้วต้องได้ รวมทั้งมีการแอนตี้ในสิ่งที่ลูกเป็นอยู่ ส่วนเบลคเป็นคนที่เงียบๆไม่ค่อยชอบการเข้าสังคม ถึงแม้เขาจะมีอาชีพเป็นนักเขียน ได้รับรางวัลและมีชื่อเสียงก็ตาม อาเธอร์นั้นภูมิใจในอาชีพหมอและเหมือนอยากให้ลูกทำงานแบบเขา อาเธอร์จึงเหน็บแนมในวันที่เบลคได้รับรางวัลนักเขียน ซึ่งทำให้ตัวเบลคเองไม่ชอบใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดกับพ่อตรงๆ

ตลอดทั้งเรื่องหนังเล่าเรื่องราวสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งเป็นเหมือนกับ flashback ให้เขาหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต หนังค่อยๆเผยถึงปัญหาของทั้งพ่อลูก ในวัยเด็กเบลคเป็นคนขี้อายขาดความมั่นใจ ชอบเก็บตัวอยู่ในห้อง เขาคิดมากที่พ่อไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนอื่นและเสียใจกับสิ่งพ่อทำให้แม่ต้องเสียใจ

และเมื่อเขาโตขึ้น ความในใจที่พ่อแอบนอกใจแม่ก็ยังคงอยู่ในใจของเขาเสมอมา ถึงแม้ว่าวันนึงพ่อเขาล้มป่วย ความในใจทั้งหลายก็ยังไม่ลบเลือนไปจากใจเขา

เบลคต้องกลับบ้านในชนบทเพื่อไปอยู่กับพ่อของเขาที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย สิ่งต่างๆภายในบ้านทำให้เขาหวนละลึกถึงความหลัง ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีเกี่ยวกับพ่อ

คืนหนึ่งเขาอยากคุยกับพ่อถึงปัญหาที่คาใจเขามาตั้งแต่วัยเด็ก แต่พ่อของเขาไม่มีแรงที่จะคุยกับเขาได้อีก และนั่นก็ทำให้เขาไม่ลืมความโกรธในวัยเด็ก

เมื่อถึงวันที่พ่อตาย เบลคได้พกับผู้หญิงที่พ่อเคยไปมาหาสู่ เขาจึงตัดสินใจถามหล่อนว่าได้มีชู้กับพ่อเขาจริงๆหรือไม่? หล่อนตอบเพียงว่าพ่อของเขารักแม่ของเขามาก จากนั้นหนังก็ตัดไปโดยไม่ได้ให้คำตอบว่าพ่อของเบลคนั้นมีชู้จริงหรือป่าว


หลังจากที่ได้ฟังคำตอบแล้ว เบลคได้ให้อภัยในสิ่งที่พ่อเขาได้ทำ เขาเลือกที่จะลืมความขัดแย้งไป

สาระสำคัญของหนังเรื่องนี้สำหรับผู้เขียน คือ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราควรเลือกที่จะปล่อยวางและให้อภัยกับคนที่ทำผิดเสียบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีความรู้สึกดีๆต่อกัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีความชิงชังต่อกัน ซึ่งเบลคได้ทำในเวลาที่สายไป ซึ่งพ่อของเขาได้จากเขาไปแล้ว แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเขายังมีความทรงจำดีๆเหลืออยู่บ้าง

ด้านการแสดงของ Jim Broadbent และ Colin Firth อยู่ในระดับที่ดี ซึ่งต้องชม Colin Firth ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของเบลคที่มีต่อพ่อได้อย่างดี

สุดท้ายหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ให้ข้อคิดมากมาย ซึ่งการให้อภัยและปล่อยวางนั้นสามารถใช้ได้กับทุกๆคน หากเราเลือกที่จะมองข้ามไปบ้าง ผมเชื่อว่าโลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยทีเดียว

อัตราความน่าดู
7/10

2 ความคิดเห็น: