And When Did You Last See Your Father? ปล่อยวางซะบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข
ทุกวันนี้คุณโกรธอะไรพ่อของคุณบ้างหรือป่าว?
หากคุณโกรธ คุณให้อภัยเขาได้แล้วยัง?
And When Did You Last See Your Father? เป็นหนังดราม่าที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวมอริสัน
ซึ่งก็เหมือนครอบครัวทั่วๆไปที่มีทั้งความสุขและความทุกข์ปนๆกันไป
หนังเรื่องนี้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ
อาเธอร์ (Jim Broadbent) และลูก เบลค (Colin
Firth) ซึ่งช่วงแรกนั้นหนังเล่าเรื่องราวไปอย่างช้าๆว่าพ่อมีนิสัยที่ช่างพูด
เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม อยากได้อะไรแล้วต้องได้ รวมทั้งมีการแอนตี้ในสิ่งที่ลูกเป็นอยู่
ส่วนเบลคเป็นคนที่เงียบๆไม่ค่อยชอบการเข้าสังคม ถึงแม้เขาจะมีอาชีพเป็นนักเขียน ได้รับรางวัลและมีชื่อเสียงก็ตาม
อาเธอร์นั้นภูมิใจในอาชีพหมอและเหมือนอยากให้ลูกทำงานแบบเขา
อาเธอร์จึงเหน็บแนมในวันที่เบลคได้รับรางวัลนักเขียน
ซึ่งทำให้ตัวเบลคเองไม่ชอบใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดกับพ่อตรงๆ
ตลอดทั้งเรื่องหนังเล่าเรื่องราวสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน
ซึ่งเป็นเหมือนกับ flashback ให้เขาหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต
หนังค่อยๆเผยถึงปัญหาของทั้งพ่อลูก ในวัยเด็กเบลคเป็นคนขี้อายขาดความมั่นใจ
ชอบเก็บตัวอยู่ในห้อง เขาคิดมากที่พ่อไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนอื่นและเสียใจกับสิ่งพ่อทำให้แม่ต้องเสียใจ
และเมื่อเขาโตขึ้น
ความในใจที่พ่อแอบนอกใจแม่ก็ยังคงอยู่ในใจของเขาเสมอมา
ถึงแม้ว่าวันนึงพ่อเขาล้มป่วย ความในใจทั้งหลายก็ยังไม่ลบเลือนไปจากใจเขา
เบลคต้องกลับบ้านในชนบทเพื่อไปอยู่กับพ่อของเขาที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
สิ่งต่างๆภายในบ้านทำให้เขาหวนละลึกถึงความหลัง
ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีเกี่ยวกับพ่อ
คืนหนึ่งเขาอยากคุยกับพ่อถึงปัญหาที่คาใจเขามาตั้งแต่วัยเด็ก
แต่พ่อของเขาไม่มีแรงที่จะคุยกับเขาได้อีก
และนั่นก็ทำให้เขาไม่ลืมความโกรธในวัยเด็ก
เมื่อถึงวันที่พ่อตาย
เบลคได้พกับผู้หญิงที่พ่อเคยไปมาหาสู่ เขาจึงตัดสินใจถามหล่อนว่าได้มีชู้กับพ่อเขาจริงๆหรือไม่?
หล่อนตอบเพียงว่าพ่อของเขารักแม่ของเขามาก จากนั้นหนังก็ตัดไปโดยไม่ได้ให้คำตอบว่าพ่อของเบลคนั้นมีชู้จริงหรือป่าว
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบแล้ว เบลคได้ให้อภัยในสิ่งที่พ่อเขาได้ทำ
เขาเลือกที่จะลืมความขัดแย้งไป
สาระสำคัญของหนังเรื่องนี้สำหรับผู้เขียน
คือ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราควรเลือกที่จะปล่อยวางและให้อภัยกับคนที่ทำผิดเสียบ้าง
เพื่อที่เราจะได้มีความรู้สึกดีๆต่อกัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีความชิงชังต่อกัน
ซึ่งเบลคได้ทำในเวลาที่สายไป ซึ่งพ่อของเขาได้จากเขาไปแล้ว แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี
เพราะเขายังมีความทรงจำดีๆเหลืออยู่บ้าง
ด้านการแสดงของ Jim Broadbent และ Colin Firth อยู่ในระดับที่ดี
ซึ่งต้องชม Colin Firth
ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของเบลคที่มีต่อพ่อได้อย่างดี
สุดท้ายหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ให้ข้อคิดมากมาย
ซึ่งการให้อภัยและปล่อยวางนั้นสามารถใช้ได้กับทุกๆคน หากเราเลือกที่จะมองข้ามไปบ้าง
ผมเชื่อว่าโลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยทีเดียว
อัตราความน่าดู
7/10
ชอบเรื่องนี้จังงงงง :]
ตอบลบลองหามาดูได้ครับ ตามร้านแมงป่องก็มี
ตอบลบ