เคยได้ยินไหมครับ “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” นี่คงเป็นคำพูดที่เหมาะที่สุดละครับสำหรับหนังเรื่องนี้
หนังเรื่อง Phone Booth เป็นหนังระทึกขวัญทุนต่ำของผู้กำกับ Joel Schumacher ซึ่งเป็นหนังปี 2002 ครับ
ถึงเป็นหนังเก่าแต่ก็ดูสนุกมากๆ ไม่เชื่อลองหามาดูกันครับ
Phone Booth เล่าเรื่องราวของนายหน้าสื่อโฆษณาอย่าง
สตู (Collin Farrell) ซึ่งคนที่ทำงานด้านนี้ก็อย่างว่าละครับ
มีนิสัยที่ปลิ้นปล้อนหลอกใช้งานคนนู้นคนนี้ พอหมดค่าก็ไม่เห็นหัวคนอื่น
นอกจากนี้สตูยังแอบมีชู้กับ พาเมล่า (Katie Holmes) ซึ่งทุกวันเข้าจะแอบโทรหาหล่อนด้วยตู้โทรศัพท์ ก็อย่างว่าละครับ
ไม่กล้าใช้โทรศัพท์มือถือเพราะกลัวเมียจับติด
จนวันนึงเขามาใช้ตู้โทรศัพท์เพื่อโทรหาพาเมล่าเหมือนเคย
มีคนโทรเข้าตู้โทรศัพท์ที่สตูใช้เป็นประจำ และเมื่อเขารับสายก็พบว่าผู้โทรซึ่งเป็นผู้ชายคนนึงที่รู้เรื่องของเขาทุกๆเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันหรือแม้แต่เรื่องพาเมล่าเอง
ผู้โทรสั่งให้สตูทำตามคำสั่ง
โดยขู่ว่าหากไม่ทำตามละก็จะยิงคนในละแวกนั้น
และนี่ละครับที่เป็นสาเหตุให้สตูต้องเจอกับวิกฤต ถึงขั้นโดนถูกตำรวจฆ่าหรือไม่ก็ตัวคนโทรนั่นแหละครับที่จะฆ่าเขาเพราะไม่เล่นตามเกมส์นั่นเอง
ดังนั้นตลอดทั้งเรื่องสตูต้องทำตามที่ฆาตกรสั่ง
เขาต้องใช้ไหวพริบต่างๆเพื่อหาทางเอาตัวรอดให้ได้
หนังได้ใส่ความระทึกเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง
จนต้องลุ้นว่าสตูจะรอดหรือไม่ เขาจะใช้วิธีใดเพื่อให้ฆาตกรพอใจ
และทำอย่างไรถึงให้ตำรวจรู้ว่าเขาโดนบังคับอยู่
สำหรับมุมมองของผม หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อว่า
“ทำอะไรไว้อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้นะ”
ตัวฆาตกรก็เหมือนกับพระเจ้าหรือศาลเตี้ยนั่นแหละครับ
ที่คอยพิพากษาคน แม้ตัวสตูเองจะไม่ได้ฆ่าใครก็ตามเถอะ
และเมื่อทุกๆอย่างบีบคั้นสตูให้ทำตามความต้องการของตัวฆาตกร
สตูก็เปิดเผยความชั่วร้ายให้ทุกๆคนรู้กัน
ไม่ว่าจะภรรยาของเขาหรือกิ๊กหรือแม้แต่เด็กฝึกงานที่เขาหลอกใช้ทำนู้นทำนี่
นี่แหละครับใครๆที่จนตรอกใกล้พบกับความตายก็จะเป็นแบบนี้แหละ
กว่าจะสำนึกได้ก็เกือบตายเสียแล้ว!
หรือบางทีตัวสตูนั้นยังไม่ได้สำนึกก็เป็นได้ แต่เป็นเพราะความกลัวตายทำให้เข้าต้องสารภาพทุกอย่างออกมา
ฉะนั้นมนุษย์ทุกคนควรจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
หมั่นทำความดีใส่ตัวเข้าบ้าง!
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Joel Schumacher เป็นงลงานที่ทำให้เค้าได้กลับมายืนอยู่แถวหน้าผู้กำกับ เพราะหลังจากกำกับ Batman & Robin ไป ก็ถูกโดนด่ารุมสวดว่าหนังออกมาได้แย่มาก Joel สามารถควบคุมโทนของหนังได้ดี เพิ่มดีกรีความระทึกได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายหากใครชอบหนังระทึกขวัญหรือยังไม่เคยดูเรื่องนี้
ลองหยิบขึ้นมาดูกันนะครับรับรองไม่ผิดหวัง
อัตราความน่าดู
7.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น