วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

Phone Booth ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา




เคยได้ยินไหมครับ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานี่คงเป็นคำพูดที่เหมาะที่สุดละครับสำหรับหนังเรื่องนี้

หนังเรื่อง Phone Booth เป็นหนังระทึกขวัญทุนต่ำของผู้กำกับ Joel Schumacher ซึ่งเป็นหนังปี 2002 ครับ ถึงเป็นหนังเก่าแต่ก็ดูสนุกมากๆ ไม่เชื่อลองหามาดูกันครับ

Phone Booth เล่าเรื่องราวของนายหน้าสื่อโฆษณาอย่าง สตู (Collin Farrell) ซึ่งคนที่ทำงานด้านนี้ก็อย่างว่าละครับ มีนิสัยที่ปลิ้นปล้อนหลอกใช้งานคนนู้นคนนี้ พอหมดค่าก็ไม่เห็นหัวคนอื่น นอกจากนี้สตูยังแอบมีชู้กับ พาเมล่า (Katie Holmes) ซึ่งทุกวันเข้าจะแอบโทรหาหล่อนด้วยตู้โทรศัพท์ ก็อย่างว่าละครับ ไม่กล้าใช้โทรศัพท์มือถือเพราะกลัวเมียจับติด

จนวันนึงเขามาใช้ตู้โทรศัพท์เพื่อโทรหาพาเมล่าเหมือนเคย มีคนโทรเข้าตู้โทรศัพท์ที่สตูใช้เป็นประจำ และเมื่อเขารับสายก็พบว่าผู้โทรซึ่งเป็นผู้ชายคนนึงที่รู้เรื่องของเขาทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันหรือแม้แต่เรื่องพาเมล่าเอง


ผู้โทรสั่งให้สตูทำตามคำสั่ง โดยขู่ว่าหากไม่ทำตามละก็จะยิงคนในละแวกนั้น และนี่ละครับที่เป็นสาเหตุให้สตูต้องเจอกับวิกฤต ถึงขั้นโดนถูกตำรวจฆ่าหรือไม่ก็ตัวคนโทรนั่นแหละครับที่จะฆ่าเขาเพราะไม่เล่นตามเกมส์นั่นเอง ดังนั้นตลอดทั้งเรื่องสตูต้องทำตามที่ฆาตกรสั่ง เขาต้องใช้ไหวพริบต่างๆเพื่อหาทางเอาตัวรอดให้ได้

หนังได้ใส่ความระทึกเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง จนต้องลุ้นว่าสตูจะรอดหรือไม่ เขาจะใช้วิธีใดเพื่อให้ฆาตกรพอใจ และทำอย่างไรถึงให้ตำรวจรู้ว่าเขาโดนบังคับอยู่

สำหรับมุมมองของผม หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อว่า ทำอะไรไว้อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้นะตัวฆาตกรก็เหมือนกับพระเจ้าหรือศาลเตี้ยนั่นแหละครับ ที่คอยพิพากษาคน แม้ตัวสตูเองจะไม่ได้ฆ่าใครก็ตามเถอะ

และเมื่อทุกๆอย่างบีบคั้นสตูให้ทำตามความต้องการของตัวฆาตกร สตูก็เปิดเผยความชั่วร้ายให้ทุกๆคนรู้กัน ไม่ว่าจะภรรยาของเขาหรือกิ๊กหรือแม้แต่เด็กฝึกงานที่เขาหลอกใช้ทำนู้นทำนี่

นี่แหละครับใครๆที่จนตรอกใกล้พบกับความตายก็จะเป็นแบบนี้แหละ กว่าจะสำนึกได้ก็เกือบตายเสียแล้ว!

หรือบางทีตัวสตูนั้นยังไม่ได้สำนึกก็เป็นได้ แต่เป็นเพราะความกลัวตายทำให้เข้าต้องสารภาพทุกอย่างออกมา

ฉะนั้นมนุษย์ทุกคนควรจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง หมั่นทำความดีใส่ตัวเข้าบ้าง!

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Joel Schumacher เป็นงลงานที่ทำให้เค้าได้กลับมายืนอยู่แถวหน้าผู้กำกับ เพราะหลังจากกำกับ Batman & Robin ไป ก็ถูกโดนด่ารุมสวดว่าหนังออกมาได้แย่มาก Joel สามารถควบคุมโทนของหนังได้ดี เพิ่มดีกรีความระทึกได้เป็นอย่างดี 

สุดท้ายหากใครชอบหนังระทึกขวัญหรือยังไม่เคยดูเรื่องนี้ ลองหยิบขึ้นมาดูกันนะครับรับรองไม่ผิดหวัง

อัตราความน่าดู
7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น